ปฏิเสธการเป่า = เมาแล้วขับ! โทษหนักจำคุก 1 ปี ปรับสูงสุด 20,000 บาท

[Naprapats]

ตำรวจสอบสวนกลางย้ำชัด! หากผู้ขับขี่ปฏิเสธการเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ จะถูกสันนิษฐานว่า "เมาแล้วขับ" ทันที ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับสูงสุด 20,000 บาท พร้อมพักใช้หรือเพิกถอนใบขับขี่ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน

ปฏิเสธการเป่า ถือว่าเมาแล้วขับทันทีตามกฎหมาย

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพื่อย้ำเตือนประชาชนว่า การปฏิเสธไม่ยอมเป่าเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์นั้น มีโทษทางกฎหมายเช่นเดียวกับความผิดฐาน "เมาแล้วขับ" โดยอ้างอิงตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2542 มาตรา 142 ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า "ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุรา เมื่อผู้ขับขี่นั้นไม่ยอมให้เจ้าพนักงานจราจรตรวจเป่า ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นขับรถในขณะเมาสุรา"

โทษทางกฎหมายที่ต้องเจอ มีทั้งจำคุกและปรับ

ผู้ที่ถูกสันนิษฐานว่าเมาแล้วขับ จะต้องรับโทษตามกฎหมาย ซึ่งมีทั้งโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และนอกจากนี้ ศาลยังมีอำนาจในการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรืออาจถึงขั้นเพิกถอนใบขับขี่ได้ตามความเหมาะสมของคดี เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

เสี่ยงเพิ่มโทษหากฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน

นอกจากโทษที่กล่าวมาแล้ว การปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ยังอาจทำให้ถูกดำเนินคดีในข้อหา "ฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงาน" ซึ่งอาจมีผลให้ได้รับโทษหนักขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น การให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวผู้ขับขี่เองและเพื่อนร่วมทางทุกคน

สรุป

การปฏิเสธไม่ยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์นั้น ไม่ได้ช่วยให้รอดพ้นความผิด แต่กลับมีผลทางกฎหมายที่รุนแรงไม่ต่างจากเมาแล้วขับ ทั้งโทษจำคุก การปรับ และการพักใช้หรือเพิกถอนใบขับขี่ ดังนั้น ผู้ขับขี่จึงควรตระหนักและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันปัญหาและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน